ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง
จำเลยที่ไม่ใช่นิติบุคคล หากศาลมีคำพิพากษาลงโทษปรับ และจำเลยไม่สามารถชำระค่าปรับได้ หรืออยู่ระหว่างถูกกักขังแทนค่าปรับ หรืออยู่ระหว่างผ่อนชำระค่าปรับ หรืออยู่ระหว่างผัดชำระค่าปรับแต่ไม่สามารถชำระค่าปรับได้ตามที่ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตไว้ก่อนหน้า และประสงค์จะทำงานบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์แทนค่าปรับ สามารถดำเนินการได้ ดังนี้
1. ผู้ร้องแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ในห้องพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่ส่วนบริการประชาชนและประชาสัมพันธ์ หรือเจ้าหน้าที่ราชฑัณฑ์ เจ้าพนักงานที่ควบคุมตัว หรือญาติเพื่อติดต่อทำคำร้อง ณ ส่วนบริการประชาชนและประชาสัมพันธ์ ชั้น 5 ช่อง 1 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง โดยมีหลักฐานดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ร้อง
- สําเนาใบสําคัญการเปลี่ยนชื่อ หรือสำเนาทะเบียนสมรสของจําเลยและผูร้อง (กรณีมีการเปลี่ยนชื่อและ/หรือชื่อสุกล)
- หนังสือมอบอำนาจที่ปิดอากรแสตมป์ตามอัตราที่กำหนด (กรณีที่จำเลยไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง) พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจที่มีการรับรองสำเนาถูกต้อง และบัตรจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
- หลักฐานอื่น ๆ (ถ้ามี)
2. เจ้าหน้าที่ส่วนบริการประชาชนและประชาสัมพันธ์เสนอคำร้องต่อศาล
3. ศาลอาจเรียกจำเลยมาสอบเพื่อพิจารณาคำสั่งคำร้อง
4. ศาลมีคำสั่ง โดยคำสั่งนี้ถือเป็นที่สุด ไม่สามารถอุทธรณ์คำสั่งได้
- กรณีที่ศาลมีคำสั่งอนุญาต
- ศาลกำหนดจำนวนวัน และระยะเวลาการทำงาน ตามระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2546 ว่าด้วยการกำหนดจำนวนชั่วโมงที่ถือเป็นการทำงานหนึ่งวัน และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยงานที่ศาลกำหนดให้ทำจะเป็นไปตามความรู้ความสามารถของจำเลย
- ส่วนบริการประชาชนและประชาสัมพันธ์มีหนังสือแจ้งสำนักงานคุมประพฤติ และบันทึกข้อมูลในสมุดคุม
- พนักงานคุมประพฤติจะนัดจำเลยมารายงานตัวภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง เพื่อกำหนดรายละเอียด และจัดให้จำเลยทำงานบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์แทนค่าปรับตามคำสั่งศาล
- กรณีที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาต/ยกคำร้อง จำเลยต้องจ่ายค่าปรับ หรือถูกกักขังแทนค่าปรับ แล้วแต่กรณี โดยศาลจะหักจำนวนวันกักขังและวันที่ทำงานบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์มาแล้ว (ถ้ามี) ออกจากจำนวนเงินค่าปรับ
5. ผู้ร้องอาจยื่นคำร้องขอผัดชำระค่าปรับ ขอผ่อนชำระค่าปรับ ขอทำงานบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์แทนค่าปรับ หรือขอใช้หลักประกันในการขอปล่อยชั่วคราวที่เป็นเงินสดชำระค่าปรับตามคำพิพากษาในภายหลัง หรือควบคู่กันได้ แล้วแต่กรณี
6. ศาลอาจมีเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอนคำสั่งในภายหลังได้ หากความปรากฏแก่ศาล หรือมีคำแถลงของโจทก์ หรือเจ้าพนักงานว่าผู้ต้องโทษปรับมีเงินพอชำระค่าปรับได้ ณ เวลายื่นคำร้อง หรือมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือเงื่อนไขที่ศาลกำหนด โดยศาลจะหักจำนวนวันกักขังและวันที่ทำงานมาแล้ว (ถ้ามี) ออกจากจำนวนเงินค่าปรับ
7. ระหว่างทำงานบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์แทนค่าปรับ ถ้าผู้ต้องโทษปรับไม่ประสงค์ทำงานดังกล่าวอีกต่อไป ผู้ต้องโทษอาจร้องขอต่อศาลเปลี่ยนเป็นรับโทษปรับ หรือกักขังแทนค่าปรับได้ และศาลต้องอนุญาตตามคำร้องนี้ โดยศาลจะหักจำนวนวันกักขังและวันที่ทำงานมาแล้ว (ถ้ามี) ออกจากจำนวนเงินค่าปรับ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม และขอรับเอกสารได้ ณ ส่วนบริการประชาชนและประชาสัมพันธ์ ชั้น 5 ช่อง 1 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 0 2141 1914, 0 2 141 1792, 0 2 141 1793