ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง
เพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและคดีการค้าระหว่างประเทศมีความรวดเร็ว เป็นธรรม ทันต่อการเยียวยาความเสียหายของคู่ความและพร้อมรองรับอรรถคดีต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคม ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจึงได้พัฒนาปรับปรุงการดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและคดีการค้าระหว่างประเทศหลายประการ ดังนี้
- การดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาคดีระหว่างศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางกับศาลยุติธรรมอื่นอาจทำผ่านทางโทรสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อทางเทคโนโลยีสารสนเทศประเภทอื่น เช่น จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) แทนการติดต่อทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษหรือใช้ประกอบกัน
- พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศจนสามารถทำการสืบพยานบุคคลที่อยู่นอกศาลในท้องที่ห่างไกลโดยระบบการประชุมทางจอภาพ (Video conference) ซึ่งจะช่วยให้การพิจารณาพิพากษาคดีเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายของคู่ความเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาระบบการสืบพยานด้วยระบบดังกล่าวได้ใช้สืบพยานบุคคลทั้งที่พำนักอยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ
- คู่ความในคดีสามารถยื่นคำขอให้คุ้มครองชั่วคราวก่อนฟ้องคดีได้
- อนุญาตให้คู่ความเสนอบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของพยานแทนการซักถามพยานต่อหน้าศาล
- อนุญาตให้ไม่ต้องทำคำแปลเอกสารภาษาอังกฤษส่งต่อศาลได้ หากคู่ความตกลงกันว่าไม่ต้องทำคำแปลและเอกสารนั้นมิใช่พยานหลักฐานในประเด็นหลักแห่งคดี
- อนุญาตให้รับฟังข้อมูลคอมพิวเตอร์เป็นพยานหลักฐานในคดีได้
- กรณีมีเหตุฉุกเฉินและจำเป็น จะขอให้ศาลมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดเอกสารหรือวัตถุที่จะใช้เป็นพยานหลักฐานไว้ก่อนได้